จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 5 รองจากกรุงเทพมหานคร จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดขอนแก่นและมีพื้นที่กว้างเป็นอันดับที่ 17 ของประเทศไทย
1.สนามช้างอารีน่า
หรือชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ธันเดอร์คาสเซิลสเตเดียม Thunder Castle Stadium) ตั้งอยู่ที่ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ทีมฟุตบอล ที่กำลังฮอตสุดๆในขณะนี้ สนามแห่งมีความจุ 32,600 ที่นั่ง ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดผู้คนทั้งใน และจังหวัด ใกล้เคียงรวมถึงแฟนบอลทุกเพศทุกวัยให้มาที่นี่ เพื่อชมสนามฟุตบอลที่สวยงามและได้มาตราฐานระดับโลก โดยเปิดให้กับบุคคลที่ สนใจเข้าชมฟรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันที่ทีมมีแข่งขันเปิดให้ชมเป็นรอบๆ รอบละ 30 นาที เริ่มตั้งแต่เวลา 9.30 – 16.00 น. ปิดพักเที่ยงตั้งแต่เวลา 12.00 – 13 .00 น. เมื่อเดินขึ้นบันไดเข้ามาก็จะเข้าสู่สนามจะ ต้องร้องว้าวเพราะสนามสวยงาม ทันสมัย ยิ่งใหญ่ เหมือนเรากำลังเดินชมสนามฟุตบอลในต่างประเทศ สิ่งแรกที่สะกดสายตา คือ ตัวสนามหญ้าพร้อมสแตนด์ฝั่งตะวันตกที่มีตัวอักษร Thunder Castle เด่นเป็นสง่าตัดกับพื้นหญ้าสีเขียว ตัวสนามเน้นใช้สีน้ำเงิน ทำให้ดูเรียบโก้และหนักแน่น โดยสามารถเดินชมและถ่ายภาพได้ทั้งหมดยกเว้นห้ามเดินลงไปเหยียบหญ้า เพราะหญ้าคือหัวใจสำคัญ ของสนามฟุตบอลต้องดูแลรักษากันเป็นอย่างดี
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/565
2.อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง
หรือปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นหนึ่งในปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บน เขาพนมรุ้งตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยโบราณสถานสำคัญ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว สูงประมาณ 200 เมตรจากพื้นราบ (ประมาณ 350 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) คำว่า พนมรุ้งนั้น มาจากภาษาเขมร คำว่า วนํรุง แปลว่าภูเขาใหญ่ ในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ สร้างขึ้นโดยมีรูปแบบของศิลปะเขมรโบราณที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่ง ความงดงามและความยิ่งใหญ่ ของปราสาทแห่งนี้ปรากฏให้เห็นได้ในรูปของงานสถาปัตยกรรม การจำหลักลวดลายการเลือกทำเลที่ตั้งบนยอดเขามีแผนผัง ตามแนวแกนที่มีองค์ประกอบของสิ่งก่อสร้าง ต่าง ๆ เรียงตัวกันเป็นแนวเส้นตรงพุ่งเข้าหาจุดศูนย์กลาง คือ ปราสาทประธาน จากงาน ก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่นี้ชวนให้เกิดความสงสัยและอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่งว่าคนในสมัยโบราณสร้างปราสาทหลังนี้ขึ้นมาได้อย่างไร ปัจจุบันปราสาทหินพนมรุ้งกำลังอยู่ในเกณฑ์กำลังพิจารณาเป็นมรดกโลก เช่นเดียวกับปราสาทหินในกลุ่มราชมรรคา ปราสาทหิน พนมรุ้งเป็นหนึ่งในปราสาทหินขอมของไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์และ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงเป็นภาพพื้นหลังตราสัญลักษณ์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอีกด้วย
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/566
3.ศาลหลักเมืองบุรีรัมย์
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่เคารพสักการะบูชาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของชาวบุรีรัมย์ และจังหวัดใกล้เคียง แต่เดิมเป็นเพียงศาลที่มีขนาดเล็กๆ แต่พอเริ่มชำรุดทรุดโทรม ทางกลุ่มข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวบุรีรัมย์ จึงเห็นควรให้สร้างศาลหลักเมืองขึ้นมาใหม่ ในปี พ.ศ. 2548 โดยให้ทางกรมศิลปากร ช่วยทำการออกแบบ ในรูปแบบศิลปะขอมโบราณที่เลียนแบบมาจากปราสาทหินพนมรุ้ง เพื่อเป็นการบ่งบอกเอกลักษณ์และตัวตนของคนชาวบุรีรัมย์ ได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญเป็นการรักษาวัฒนธรรมอันดีงามไว้ในคนรุ่นหลังได้สืบทอดกันต่อไป ลักษณะของศาลหลักเมืองจะเป็น เหมือนองค์ปรางค์มียอดทั้งหมด 5 ชั้น แต่ละชั้นประดับกรีบขนุน และ เทพประจำทิศเพื่อปกป้องรักษาทิศต่างๆ องค์เรืองธาตุเป็นที่ ประดิษฐานพระหลักเมืองชักมุมออกทั้ง 4 ด้าน อันเป็นความหมายถึงการกระจายความเป็นหลักฐานความมั่นคงออกไปทั้ง 4 ทิศ ส่วนยอดศาลพระหลักเมืองติดตั้งรูปดอกบัวเป็นสเตนกลาสประดับทองเพื่อนำแสงเข้าสู่หลักเมือง ภายในตัวศาลได้ตั้งเสาหลักเมือง ตรงกลางองค์ปรางค์ พร้อมกับอันเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระเสื้อเมือง เทพารักษ์ และพระทรงเมืองเพื่อมาปกปักษ์รักษาคุ้มครอง ป้องกัน ให้บ้านเมือง อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ความแปลกประการหนึ่งคือ เสาหลักเมืองบุรีรัมย์ที่ปรากฏ มีอยู่ 2 ต้น มีข้อสันนิษฐานว่า เสาต้นที่ 1 (ต้นเอียง) เป็นเสาหลักเมืองที่ตั้งขึ้นเมื่อสร้างเมืองแปะ ส่วนเสาหลักเมืองต้นที่ 2 น่าจะเป็นเสาหลักเมืองที่ตั้งขึ้นเมื่อมีฐานะเป็น จังหวัดบุรีรัมย์และสร้างใกล้ชิดติดกัน
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/567
4.ปราสาทหินเมืองต่ำ
ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านโคกเมือง ตำบลจรเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทาง ทิศใต้เป็นระยะทาง ประมาณ 64 กิโลเมตร สร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดูสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อถวายพระศิวะมีลักษณะเป็นศาสนสถาน ประจำเมืองหรือประจำชุมชน ปราสาทหินเมืองต่ำมีรูปแบบที่แตกต่างจากปราสาทแห่งอื่นๆ ที่จะมีปรางค์องค์ใหญ่ตรงกลางและล้อมรอบด้วยปรางค์ขนาด เล็กกว่าทั้ง 4 มุม ลักษณะเป็นกลุ่มปราสาทอิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนศิลาแลง อันเดียวกัน เรียงเป็น 2 แถวตามแนวทิศเหนือใต้ แถวหน้า 3 องค์ องค์กลางมี ขนาดใหญ่กว่าปรางค์อื่น ส่วนแถวหลังมีปรางค์อิฐจำนวน 2 องค์ วางตำแหน่งให้อยู่ระหว่างช่อง ของปรางค์ 3 องค์ ในแถวแรก ทำให้สามารถมองเห็น ปรางค์ทั้ง 5 องค์ พร้อมกันโดยไม่มี องค์หนึ่งมาบดบัง คำว่า เมืองต่ำไม่ใช่ชื่อดั้งเดิม แต่เป็นชื่อที่ชาวพื้นเมืองเรียกโบราณ สถานแห่งนี้ เพราะปราสาทแห่งนี้ ตั้งอยู่บน พื้นราบ ส่วนปราสาทพนมรุ้งตั้งอยู่บนเชิงเขา ซึ่งทั้งปราสาทเมืองต่ำและปราสาทพนมรุ้งอยู่ไม่ห่างกันมาก คือห่างกันเพียง 8 กิโลเมตร นอกจากนี้ วัสดุส่วนหนึ่งจากโบราณสถาน และโบราณวัตถุของปราสาทเมืองต่ำพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงนำมาเป็นส่วนประกอบ ในการทำพระเครื่อง ที่เรียกว่า "พระสมเด็จจิตรลดา" อีกด้วย
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/568
5.ถนนคนเดินเซราะกราว
เป็นถนนคนเดินเป็นวัฒนธรรมที่เป็นอัตตลักษณ์ของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น. ณ บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด จัดขึ้นเพื่อให้ถนนคนเดินแห่งนี้ เป็นลานบ้าน ลานวัฒนธรรม เป็นแหล่งให้ ประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์มาพบปะกัน นำสินค้าผลผลิตในชุมชนมาจำหน่าย นำศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามและน่าสนใจของแต่ละอำเภอ มาแสดง นำภูมิปัญญาของท้องถิ่นมาสาธิตให้ผู้ร่วมเที่ยวชมงานได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยมีการจัดแสดงการสาธิต และจัดจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ ภูมิปัญญาต่างๆ ของฝากของที่ระลึก อาหารปรุงสำเร็จ ตลาดสีเขียว สินค้าเบ็ดเตล็ด และชมการแสดง ศิลปหัตถกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดบุรีรัมย์ รวมกว่า 359 บูธ ตลอดถนนพิทักษ์ หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ระยะทางยาวเกือบ 1 การเดินทางจากถนนจิระตรงมายังสี่แยกตลาดไนท์บาซาร์ บริเวณคลองละลม (คูเมืองโบราณลูกที่ 1) ห่างจากสถานีรถไฟจังหวัดบุรีรัมย์ ประมาณ 500 เมตร
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/569
6.วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วรอบ บริเวณปกคลุมด้วยป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าขนาดเล็ก โดยเฉพาะนกนานาชนิด เดิมชื่อเดิม คือ "พนมกระดอง" เป็นภาษาเขมร แปลว่า ภูเขากระดอง (เต่า) เป็นภูเขาที่มีรูปลักษณ์คล้ายกระดองเต่า ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น "กระโดงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจและศึกษาประวัติศาสตร์ทางธรณีวิทยา เพราะเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานกู่เขากระโดง ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง และมี “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ คู่เมืองบุรีรัมย์บนยอดเขาการขึ้นไปเขากระโดง ทำได้สองวิธี คือ เดินขึ้นบันไดจำนวน 297 ขั้น หรือ ขับรถขึ้นไปถึงยอดเขา
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/570
7.วัดเขาพระอังคาร
เป็นวัดที่มีความสวยงามแปลกตา ตั้งอยู่บนเขาอังคารซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว อยู่ห่างจากปราสาทหินพนมรุ้งไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร จากบุรีรัมย์ใช้เส้นทางสาย บุรีรัมย์-นางรอง-บ้านตะโก-บ้านตาเป็ก (ทางเดียวกับไปปราสาทหินพนมรุ้ง) เมื่อเดินทางถึงบ้านตาเป็ก เลี้ยวขวาตามทางไปอำเภอละหานทรายประมาณ 13 กิโลเมตร จะพบทางแยกขวาไปวัดเขาอังคารอีก 7 กิโลเมตร ภายในบริเวณวัดเคยมีการค้นพบโบราณสถานเก่าแก่และใบเสมาหินทรายสมัยทวารวดีหลายชิ้นถูกวางระเกะระกะ เพราะตอนนั้นชาวบ้านยังไม่รู้คุณค่าใบเสมาเก่าแก่ ตอนนี้มีการศึกษาพบว่าใบเสมาหินทรายมีอายุมากกว่าปราสาทหินพนมรุ้งซะอีก จึงได้มีการบูรณะกันใหม่ ปัจจุบันเป็นวัดที่สวยงามใหญ่โตแห่งหนึ่งของบุรีรัมย์ มีการก่อสร้างโบสถ์ ศาลาและอาคารต่างๆ เลียนแบบสถาปัตยกรรมสมัยต่างๆ หลายรูปแบบ ภายในโบสถ์ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษด้วย
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/571
8.วัดระหาน(เกาะแก้วธุดงคสถาน)
ภายในวัดประดิษฐานพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ เพื่อเป็นปูชนียสถานระลึกถึงองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ลักษณะขององค์พระมหาเจดีย์ เป็นศิลปะประยุกต์ร่วมสมัยความสูง ๖๐ เมตร มี ๔ ชั้น ชั้นที่ ๑ ใช้ประโยชน์เป็นศาลาอเนกประสงค์ ชั้นที่ ๒ เป็นสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ชั้นที่ ๓ เป็นอุโบสถ พิพิธภัณฑ์และที่ประดิษฐาน รูปเหมือนของพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ชั้นที่ ๔ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสมเด็จพระสังฆนายกฝ่ายสยามวงศ์ และพระอัครมหาบัณฑิต วิมละรัตนะ เจ้าอาวาสวัดศรีเวฬุวนาราม ประเทศศรีลังกา ได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุและหน่อพระศรีมหาโพธิ์ แก่พระครูเขมคุณโสภณ (หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ) เมื่อปี ๒๕๔๗ ส่วนต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้ปลูกไว้ ด้านหลังพระมหาธาตุรัตนเจดีย์ภายในวัดเกาะแก้วธุดงคสถาน เป็นสถานที่สงบร่มรื่น และมีนกยูงอาศัยอยู่จำนวนมาก เหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนที่ต้องการไปกราบไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุ ทำบุญและปฏิบัติธรรม
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/572
9.หาดปราสาททอง
ยังเหมาะแก่การปั่นจักรยานรอบ ๆ อ่างเก็บน้ำ โดยรวมของระยะทางทั้งหมด เกือบ 10 กิโลเมตร ที่พิเศษกว่านั้น ยังเป็นสถานที่ฝึกซ้อมกีฬาทางน้ำ เช่นเจ็ทสกี ระยะทางฝึกซ้อมและการแข่งขัน 9.3 กิโลเมตร ระยะเวลาโดยรวมจากวันแรกที่พัฒนาหาดจนถึงวันนี้ เพียง 3 เดือน กว่า ๆ นักท่องเที่ยวต่างเลือกที่จะมานั่งพักผ่อนหย่อนใจสร้างความสุขให้กับครอบ ครัวกับเพื่อน แวะเป็นจุดเช็คอิน ถ่ายรูป แชะ ชิม ชิว ทั้งนี้ภายในหาดยังมี เจ็ทสกี ให้บริการ หรือจะเป็น จักรยานน้ำ ชุดชูชีพ ห่วงยาง อินเทรนกันสุด ๆ กับ บานาน่าโบ๊ท หรือจะเป็นวอลเลย์บอลชายหาด อุ่นใจเรื่องความปลอดภัย เพราะที่หาดมีเจ้าหน้าคอยอำนวยความสะดวกและคอยดูแลตลอดเวลา งานนี้ต้องยอมรับในวิสัยทัศน์ของ องค์การบริหารส่วนตำบลเย้ยปราสาท โดยท่านนายก วุฒินันท์ ประสงค์ทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเย้ยปราสาท ที่ได้พัฒนาสถานที่แห่งนี้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวหนองกี่และนักท่องเที่ยวที่มาบุรีรัมย์ “เมื่อธรรมชาติ ไม่ได้สร้าง ทะเล น้ำตก ภูเขา เหมือนจังหวัดอื่นมี “คนบุรีรัมย์” ก็ต้องสร้าง ด้วยมือของเราเอง” หาดปราสาททอง ทะเลน้ำจืดของคนบุรีรัมย์ความภูมิใจของคนหนองกี่ ถิ่นมวยดัง ไก่ย่างรสดี มากมีผ้าไหม หลากหลายวัฒนธรรมธรรมชาติเลิศล้ำเขื่อนห้วยยางและทุ่งกระเต็น
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/573
10. เพ ลา เพลิน
ตั้งอยู่อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ห่างจากตัวอำเภอเมืองมาประมาณ 32 กิโลเมตร พื้นที่ภายในถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ เพ ลา เพลิน บูติครีสอร์ท และ อุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน ด้านหน้าเป็นส่วนของโซนต้อนรับจะมีพื้นที่ขายบัตรเข้าชมอุทยานไม้ดอก สำหรับค่าเข้าตามภาพค่ะ โดยมีรถรางนำเข้าไปในพื้นที่ในส่วนของอุทยานดอกไม้ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังจากนั้นเดินชมไปยังโรงเรือนต่างๆซึ่งเชื่อมต่อกัน
ชมข้อมูลแผนที่และอ่านริวิวเพิ่มเติมได้เลย >>> https://jinnyz.com/place/574